
อาจารย์ได้ให้ความกรุณามาบรรยายเรื่องเกี่ยวกับมหันตภัยพิบัติของโลกและการเตรียมการรับมือให้ชาวเชียงใหม่ฟังในงานมหกรรม จิตเมตตา ชีวาเป็นสุข (Vegetarian Festival : Green & Happy Life ครั้งที่ 1 เรื่อง "การศึกษาเพื่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม" (1st Syposium on Education for Health and Environment) 2-4 ธันวาคม 2554 ณ คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
มนุษย์กำลังเผชิญวิกฤติและภัยพิบัติธรรมชาติ ทั้งแผ่นดินไหว ภาวะน้ำแข็งขั้วโลกละลาย ภัยแล้ง ไฟป่า น้ำท่วมฉับพลัน พายุถล่มรุนแรง ควันพิษหรือการแพร่กระจายของเชื้อโรคสายพันธ์ใหม่ เหล่านี้ คือผลพวงจากปัญหาภาวะโลกร้อน (Global Warming) ที่ทั่วโลกกำลังตื่นตัวอย่างมาก ภาพยนตร์เรื่อง An Inconvenient Truth ของ Al Gore เป็นตัวจุดชนวนให้คนหันมาสนใจปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจังโดยเฉพาะปัญหาอุณหภูมิบนผิวโลกที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งภาวะโลกร้อนเป็นจุดเปลี่ยนแปลงอันตรายที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่สิบปี ทั่วโลกมีการตัดไม้ทำลายป่ากันเต็มไปหมด แม้ประเทศไทยเองปัจจุบันมีพื้นที่ป่าเหลือเพียงแค่ 18% ทั่วโลกมีแต่การใช้น้ำมันใช้พลังงานมาเผาผลาญเป็นคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้นไปทำลายชั้นบรรยากาศก่อเกิดภาวะเรือนกระจก (Green House Effect) ซึ่งเป็นกลไกหลักในการทำให้โลกร้อนขึ้นเพราะความร้อนผิวโลกถูกชั้นเรือนกระจกนี้กั้นไว้ไม่ให้ความร้อนออกไปนอกโลก เมื่อโลกร้อนขึ้น น้ำแข็งขั้วโลกใต้และเกาะกรีนแลนด์ละลาย (น้ำแข็งขั้วโลกเหนือละลายไม่มีผลต่อปริมาณน้ำในโลก เพราะน้ำแข็งขั้วโลกเหนือเป็นก้อนน้ำแข็งมหึมาลอยตัวอยู่) ระดับน้ำในทะเลสูงขึ้นทีละนิดๆ 2 มม. น้ำจะเริ่มท่วมเข้าสูป่าชายเลนทีละนิดๆ จนค่อยๆหมดสภาพไปที่เราไม่เคยเชื่อว่าน้ำจะท่วม กรุงเทพฯ วันนี้เริ่มเห็นเป็นจริงบ้างแล้ว ประเด็นแผ่นดินไหวในประเทศไทย ตั้งแต่มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นหลายๆครั้ง รวมทั้งสสึนามิใต้ท้องทะเล เกิดจากการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกที่เรียกว่า Plate ต่างๆ พยายามจะปรับสมดุลเพราะน้ำทะเลแปซิฟิกในซีกโลกตะวันออกซึ่งมีปริมาณมหาศาล ถ่วงให้น้ำบนผิวโลกด้านนั้นมีมาก โลกจึงเริ่มแกว่ง โลกต้องปรับสมดุลให้แกนโลกเอียงเพิ่มขึ้น จึงเกิดการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกมากขึ้นแผ่นดินจึงเริ่มขยับและเกิดแผ่นดินไหวมากขึ้น ในประเทศไทยเองก็มีรอยเลื่อนที่มีพลัง (Active Fault) อยู่มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งรอยเลือนกาญจนบุรี ซึ่งอยู่ใต้เขื่อนศรีนครินทร์ค่อนข้างใหญ่ แม้ว่าเขื่อนจะแข็งแรงเพียงใดหากรอยเลื่อนนั้นรุนแรงต่างฝ่ายต่างเลื่อน เขื่อนก็ต้องแตกเข้าสักวัน แผ่นดินในประเทศไทยก็เริ่มจมซึ่งอาจทำให้น้ำท่วมหมดได้ในที่สุด โดยเฉพาะภาคกลางของไทยซึ่งถือว่าอันตราย หากภูเขาน้ำแข็งทั่วโลกละลายหมด ระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้นประมาณ 8 เมตรซึ่งภาคกลางคงอยู่ไม่ได้ เพราะปัจจุบันสูงกว่าระดับน้ำทะเลแค่เมตรกว่าๆ มันอาจจะท่วมเข้ามาลึกถึงสิงห์บุรี ลพบุรี แต่เราจะยอมให้กรุงเทพมหานครและเมืองหลวงเก่าของเราคืออยุธยาจมน้ำไปหมดอย่างนั้นหรือ มันมีวิธีการแก้ไขคือการสร้างเขื่อนขนาดยักษ์ขวางปากอ่าวไทยขอเพียงแต่รัฐบาลรับฟังบ้างจนป่านนี้แล้วยังไม่เห็นแนวทางการป้องกันเลย ฉะนั้น “หายนะภัยที่เกิดจากวิกฤติโลกร้อน” จึงเกี่ยวข้องกับเปลือกโลกที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพที่เปลี่ยนไปเพื่อให้เกิดภาวะสมดุลใหม่ สิ่งที่เสียหายตามมาจากการปรับตัวของเปลือกโลกจึงส่งผลกระทบกับชีวิตของมวลมนุษยชาติอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หลังจากนั้นคาดว่าอีก 12 ปี หลังโลกของเราเปลี่ยนแปลงไปจะกลายเป็นโลกที่เต็มไปด้วยความสงบสุข ไม่มีการทะเลาะเบาะแว้งกัน ไม่มีการทำสงครามกันเพราะวิกฤตธรรมชาติจะทำให้มนุษย์รู้โทษภัยของ”ความไม่รู้จักพอ” แต่การไปถึงจุดนั้นได้ มนุษย์คงต้องโดนกระตุ้นจากธรรมชาติเสียก่อนเป็นการอาศัยวิกฤตเพื่อเปลี่ยนแปลง จึงเป็นเรื่องน่าเสียดายที่มนุษย์จะต้องขอให้เกิดให้เกิดวิกฤตเสียก่อนจึงจะเลิกทะเลาะกันเลิกทำสงครามกัน เพราะตอนนี้เราพึงตระหนักว่า ทุกคนมีเวลาอยู่เพียง 12 ปี เท่านั้นก่อนถึงความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ
Keynote Speaker :
ศาสตราจารย์ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา คือ นักคิด นักวิทยาศาสตร์ ผู้คิดค้นระบบการลงจอดของยานอวกาศบนดาวอังคารขององค์การ NASA ท่านปฏิบัติสมาธิและเป็นมังสวิรัติมายาวนานกว่า 30 ปี ท่านปฏิเสธเงินเดือนของนาซาที่จะให้เพิ่มอีก 20 เท่า เพื่อที่จะกลับมาสอนหนังสือเด็กๆในชนบทในเมืองไทย สร้างคนรุ่นใหม่จากอายุ 6 ขวบ เพื่อให้เป็นอนาคตของประเทศไทยต่อไป (ปัจจุบันเป็นผู้บริหารโรงเรียนสัตยาไส อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี บรรยายสอนเรื่องการพัฒนาจิตของเยาวชนไปทั่วโลก ชีวิตของท่านเต็มไปด้วยความเสียสละ สมถะ และบำเพ็ญตนเพื่อประโยชน์สุขของประเทศชาติและมหาชนที่น่าสรรเสริญมาก)
Link ไป Facebook